Uncategorized

Comfort Zone คืออะไร ต่างจาก Safe Zone อย่างไร

ไขข้อสงสัย Comfort Zone กับ Safe Zone เหมือนหรือต่างกันนะ

Comfort Zone คืออะไร เหมือนหรือแตกต่างจาก Safe Zone อย่างไร

สำหรับในบทความนี้พาทุกคนไปรู้จักว่า Comfort Zone คืออะไร Safe Zone กับ Comfort Zone ต่างกันยังไง ? เรียนรู้วิธีออกจาก Comfort Zone ว่ามีอะไรบ้าง Comfort Zone ของตัวเองอยู่ในระดับไหน การก้าวออกจาก Comfort Zone อย่างไรให้สบายใจ 

อันดับแรก SMART – i Camp เชื่อว่าพ่อแม่หลายคนคงจะเคยได้ยินทั้งคำว่า Comfort Zone และ Safe Zone แล้วคงสงสัยเหมือนกันว่าทั้ง 2 คำนี้แตกต่างกันอย่างไร

Comfort Zone คือ สภาวะที่เรารู้สึกสบายทั้งกายและใจในการทำสิ่งเดิม ๆ ในทุก ๆ วัน เนื่องจากไม่ได้ออกไปเจอสิ่งใหม่ ๆ ได้ทำทุกอย่างในแบบที่เคยทำ โดยไม่ต้องมีความท้าทายใด ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง เน้นอยู่ในสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคยและควบคุมได้ ซึ่งในบางครั้งสามารถออกจาก Comfort Zone ได้ด้วยการลองทำสิ่งใหม่ ๆ อย่างค่ายปิดเทอม ที่มีกิจกรรมหลากหลายให้เด็ก ๆ ได้เลือกตามความสนใจ

ส่วน Safe Zone คือ พื้นที่ที่รู้สึกถึงความปลอดภัยในทางจิตวิทยา เป็นพื้นที่แห่งความไว้วางใจ พื้นที่แห่งความสัมพันธ์ที่ส่งเสริมพัฒนาซึ่งกันและกัน อีกทั้งยังเป็นพื้นฐานของการก้าวออกจาก Comfort Zone อีกด้วย

ทำไมการออกจาก Comfort Zone คือเรื่องยากสำหรับใครหลายคน

เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงอยากให้ลูกกล้าที่จะก้าวออกจาก Comfort Zone ออกมาทำกิจกรรมช่วงปิดเทอมใหม่ ๆ แต่ก็รู้สึกว่าทำไมการที่จะก้าวออกจาก Comfort Zone ของลูกมันช่างเป็นเรื่องที่ยากเย็นและท้าทายเสียเหลือเกิน SMART – i Camp จึงได้รวบรวมเหตุผลมาให้ว่า ทำไมการออกจาก Comfort Zone คือเรื่องยาก เพื่อที่จะได้ทำการวิเคราะห์และรู้ว่าเด็ก ๆ กำลังติดปัญหาอยู่กับสิ่งใด

  • กลัวความไม่แน่นอน : เพราะการอยู่ใน Comfort Zone คือสิ่งที่สามารถควบคุมได้ คาดเดาได้ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้น การก้าวออกมาจะทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและกลัวความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้น
  • เสพติดความสะดวกสบาย : เพราะการก้าวออกจาก Comfort Zone จะทำให้ความสะดวกสบายในการทำกิจกรรมเดิม ๆ ต้องหายไป แล้วไม่อยากที่จะต้องพยายามเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ เพราะกลัวว่าจะสูญเสียความสบายเหล่านั้นไป
  • คาดหวังในความสมบูรณ์แบบ : เด็ก ๆ กลัวว่าเมื่อออกมาจาก Comfort Zone เขาจะทำผิดพลาดและไม่สมบูรณ์แบบเท่ากับการทำสิ่งเดิมเหมือนตอนที่อยู่ใน Comfort Zone
  • เคยชินกับพฤติกรรมเดิม ๆ : ดังนั้นจึงต้องใช้เวลาในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใจร้อน จึงจะเกิดผลสำเร็จ


รู้ไหมว่า Comfort Zone มีหลายระดับ แล้วมีอะไรบ้าง ?

ก่อนที่จะไปดูกันว่าการที่จะให้ลูกออกจาก Comfort Zone ไปเข้าร่วมกิจกรรม Summer camp Thailand สามารถทำได้ด้วยวิธีใดบ้าง พ่อแม่จะต้องมาทำความรู้จักกันก่อนว่า Comfort Zone
มีกี่ระดับ แล้วการที่จะก้าวข้ามผ่าน Comfort Zone ในแต่ละระดับนั้นจะต้องเอาชนะอะไรบ้าง ซึ่ง Comfort Zone สามารถแบ่งออกได้เป็นทั้งหมด 5 โซน ดังต่อไปนี้

Comfort Zone คือ โซนที่เด็ก ๆ จะรู้สึกสบายทั้งกายและสบายใจ เป็นการใช้ชีวิตประจำวันปกติทั่วไปที่เคยทำ ไม่มีความท้ายหรือความตื่นเต้นอะไรแปลกใหม่ และไม่มีการเติบโตหรือก้าวไปข้างหน้า

ขั้นต่อมาคือ Fear Zone โดยความกลัวในที่นี้ หมายถึง การกลัวความล้มเหลว กลัวการถูกตัดสิน กลัวการผิดพลาด เนื่องจากโซนนี้เด็ก ๆ เริ่มมีความคิดที่อยากจะลองสิ่งใหม่ ๆ แต่ไม่กล้าที่จะก้าวข้ามออกมา พื้นที่ในหัวของเด็ก ๆ จะเต็มไปด้วยข้ออ้างมากมาย ขาดความมั่นใจ เพราะขาดความเชื่อมั่นในตนเอง (Self-esteem) และขาดประสบการณ์ 

ในโซนนี้พ่อแม่อาจจะต้องเพิ่มความมั่นใจให้กับลูก เพื่อให้เขาเอาชนะความกลัวต่าง ๆ ที่มีเพราะการจะก้าวออกจาก Comfort Zone จำเป็นจะต้องมี Growth Mindset เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้จากความผิดพลาด

เป็นพื้นที่ที่เด็กเริ่มเปิดใจในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ หรืออาจจะเป็นการเรียนรู้สิ่งเดิมในมุมมองใหม่ ๆ มีการพัฒนาทั้งความรู้ ความสามารถ และความคิด รวมไปถึงการกล้าที่จะรับมือกับปัญหาใหม่ ๆ ที่จะเข้ามา ในขั้นนี้เด็กจะเริ่มมีความมั่นใจ เอาชนะความกลัว พร้อมเรียนรู้และเผชิญหน้ากับความท้าทายที่มากขึ้น

เรียกได้ว่าโซนนี้เป็นโซนแห่งการเปลี่ยนผ่านจาก Learning Zone ไปสู่ Growth Zone เป็นช่วงเหมือนยืนอยู่กึ่งกลางระหว่างทางขึ้นเขาว่าจะเดินขึ้นไปต่อให้ถึง Growth Zone หรือจะเดินกลับลงไปใน Comfort Zone

เป็นสภาวะใหม่ที่เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้และเติบโตเหมือนกับการผ่านด่านในเกมมาอีก 1 Level สภาวะนี้เด็ก ๆ จะสามารถรับมือกับความท้าทายได้มากขึ้น มีทักษะการจัดการอารมณ์ได้เป็นอย่างดี เด็ก ๆ อาจจะรู้สึกว่าเขาตัวใหญ่กว่าปัญหาเพราะเขาสามารถจัดการกับมันได้ ซึ่งเมื่อเด็ก ๆ มายืนอยู่ในจุดนี้แล้ว Growth Zone ก็จะกลายเป็น Comfort Zone ใหม่ของพวกเขา และเด็ก ๆ ก็จะต้องกล้าหาญที่จะต้องก้าวออกจาก Comfort Zone อีกครั้ง

พ่อแม่ที่อ่านมาถึงตรงนี้ก็คงมีคำถามเหมือนกันว่าแล้วเด็ก ๆ จะต้องก้าวออกจาก Comfort Zone แบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่?

คำตอบคือมนุษย์มีข้อจำกัดอยู่อย่างมากมายที่รอให้ทุกคนต้องก้าวข้าม แต่เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องก้าวข้ามข้อจำกัดเพื่อพัฒนาตนเองไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เพียงแค่เราต้องรู้ว่าความต้องการของตนเองคืออะไร สิ่งนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้าเราหาความต้องการของตนเองเจอเราก็จะสามารถหยุด ณ จุดที่ใช่ได้อย่างแน่นอน

สิ่งที่จะทำให้ออกจาก Comfort Zone ได้คือการเห็นคุณค่าในตนเอง

สิ่งสำคัญที่จะช่วยทำให้เด็ก ๆ สามารถก้าวออกมาจาก Comfort Zone คือ การทำให้เด็ก ๆ มองเห็นคุณค่าในตนเองหรือที่เรียกว่า Self-esteem เป็นการทำให้เด็ก ๆ เห็นถึงความสำคัญของตนเอง
เชื่อมั่นในตนเองว่าสามารถฝ่าฟันกับอุปสรรคหรือความท้าทายที่เข้ามาได้ หรือไม่ว่าจะเป็นการเจอกับสิ่งที่ไม่ดี การดูถูก ที่ทำให้รู้สึกแย่ ก็สามารถเรียนรู้ที่จะปล่อยผ่านและไม่ให้คุณค่ากับมัน โดย Self-esteem มีองค์ประกอบดังต่อไปนี้

การรับรู้ว่าตนมีความสามารถ (Competence)

เมื่อเด็ก ๆ รับรู้ได้ว่าตนเองมีความสามารถไม่ว่าจะเป็นด้านการเรียน การเต้น การทำศิลปะ ฯลฯ หรือแม้แต่ความสามารถในการทำงานให้สำเร็จลุล่วงได้ตามเป้าหมาย สามารถแก้ปัญหาได้ ก็จะช่วยเสริมสร้างให้เด็ก ๆ มีความมั่นใจ ปรับตัวได้ดี และอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การรับรู้ว่าตนมีความสำคัญ (Significance)

การทำให้เด็ก ๆ รับรู้ได้ว่าตัวเขาได้รับการยอมรับจากผู้อื่น ซึ่งสามารถเริ่มต้นได้จากพ่อแม่ ให้เขารู้สึกว่าเขาเป็นที่รัก มีประโยชน์และเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว เพียงเท่านี้ก็จะช่วยเพิ่มความมั่นใจและทำให้เด็ก ๆ มองเห็นถึงคุณค่าของตนเอง

การรับรู้ว่าตนมีอำนาจ (Power)

การรับรู้ว่าตนเองมีอำนาจในที่นี้หมายความว่า การให้เด็ก ๆ รู้สึกว่าว่าตัวเขามีอิทธิพลในการควบคุมชีวิตของตนเองและเหตุการณ์ต่าง ๆ รอบตัวได้ สร้างความเชื่อมั่นในการกระทำของตนเองว่าจะก่อให้เกิดผลตามมาไม่ว่าจะดีหรือร้าย แต่ก็พร้อมที่จะรับผลนั้น ๆ

การรับรู้ว่าตนมีคุณความดี (Virtue)

ทำให้เด็ก ๆ รับรู้ว่าเขาเองก็เป็นคนดีปฏิบัติตัวสอดคล้องกับศีลธรรม ค่านิยมและวัฒนธรรมประเพณี เมื่อเขารับรู้ก็จะมองโลกในแง่ดี พอใจในการใช้ชีวิต และแสดงพฤติกรรมต่าง ๆ ออกมาในทางที่ถูกต้อง
ดีงาม

อะไรคือสิ่งที่จะตามมาหลังออกจาก Comfort Zone สำเร็จ

เมื่อเด็ก ๆ ก้าวออกมาจาก Comfort Zone ได้สำเร็จแล้ว สิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นคือสิ่งที่จะมีแต่ประโยชน์และโอกาสมากมายที่เกิดขึ้นกับตัวของเด็ก ๆ รับรองว่าไม่เสียใจอย่างแน่นอนที่พยายามให้เด็ก ๆ
ก้าวข้ามความกลัวหลาย ๆ อย่างมาได้

  • ล้มแล้วลุกไว : การออกจาก Comfort Zone ช่วยให้เด็ก ๆ สามารถที่จะรับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้ดี เมื่อเขาพบเจอกับความไม่สบายใจหรือผิดหวังก็สามารถที่จะกลับมาเป็นปกติได้ไว
  • รู้จักตัวเองมากขึ้น : เนื่องจากเด็ก ๆ ได้ลองทำอะไรที่หลากหลาย จึงรู้ว่าสิ่งใดที่ตัวเองชอบหรือถนัด หรือสิ่งใดที่ตนเองไม่ถนัด ทำให้เลือกเส้นทางของตนเองได้รวดเร็ว
  • เห็นคุณค่าของตนเอง : กว่าจะออกมาจาก Comfort Zone เด็ก ๆ ต้องใช้พลังเป็นอย่างมาก การที่เขาก้าวออกมาได้จะทำให้เขามองเห็นคุณค่าในตนเองได้มากยิ่งขึ้น
  • พัฒนา Growth Mindset : เพราะการออกมาจาก Comfort Zone ทำให้เด็ก ๆ ได้ลองทำและมีความคิดริเริ่มตลอดเวลา จึงส่งเสริมให้เด็ก ๆ มี Growth Mindset ในการพัฒนาตนเองอยู่เสมอ


แชร์กิจกรรมส่งเสริมการออกจาก Comfort Zone ของเด็ก ๆ

สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองคนไหนที่อยากให้ลูกได้ออกมาจาก Comfort Zone ของตัวเอง มาเจอกับผู้คนใหม่ ๆ กิจกรรมใหม่ ๆ เพิ่มความท้าทายและเพิ่มศักยภาพในด้านต่าง ๆ ให้กับเด็ก ๆ
SMART – i Camp  ขอแนะนำกิจกรรมที่เสริมสร้าง Life Skill หรือทักษะชีวิตให้กับเด็ก ๆ โดยมีจุดเด่นของกิจกรรม ดังนี้

  • เป็นกิจกรรมที่เปิดกว้างทางความคิดให้เด็ก ๆ ได้แสดงศักยภาพของตนเองได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกลัวถูกผิด
  • ให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้และลงมือทำ พร้อมทั้งแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง
  • เด็ก ๆ ได้ก้าวข้ามความกลัวและออกจาก Comfort Zone
  • เป็นกิจกรรมช่วงปิดเทอมที่มีความสนุก ไม่น่าเบื่อ
  • เด็ก ๆ ได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
  • มีกิจกรรมที่หลากหลาย ได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ที่มากกว่าในห้องเรียน
  • เด็ก ๆ ได้ฝึกกระบวนการคิดและตัดสินใจ
  • ได้เรียนรู้การทำงานร่วมกับผู้อื่น
  • รู้จักตนเองและมีความคิดในเชิงบวก
  • พร้อมรับมือกับสถานการณ์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ


แนะนำค่ายที่จะเป็น Comfort Zone รวมถึงพัฒนาให้ไปในแต่ละ Zone ได้อย่างมั่นคง

SMART – i Camp มีกิจกรรมค่ายช่วงปิดเทอมให้เด็ก ๆ ได้สนุกและเพิ่มทักษะต่าง ๆ อย่างหลากหลาย เพื่อให้เด็ก ๆ ได้นำทักษะเหล่านั้นไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน และเป็นการสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับเด็ก ๆ ได้แสดงความเป็นตัวตนของตนเองออกมาได้อย่างเต็มที่ โดยค่ายที่ทาง SMART – i Camp  ได้จัดขึ้นและอยากแนะนำให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองมี ดังต่อไปนี้

Life Skill “Walk through the History” ตามรอยประวัติศาสตร์ลพบุรี

เหมาะสำหรับเด็ก ๆ อายุ 8-14 ปี เป็นค่าย 3 วัน 3 คืน ให้เด็ก ๆ ได้เดินทางไปทัศนศึกษา ณ วังนารายณ์ จ.ลพบุรี เพื่อศึกษาประวัติศาสตร์และเรียนรู้สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต อีกทั้งทำกิจกรรม Workshop สืบสานวัฒนธรรม ให้เด็ก ๆ ได้เสริมสร้างจินตนาการ พัฒนาทักษะทั้งด้านร่างกายและจิตใจ

Life Skill “The forest is alive, the trees are breathing” ป่ามีชีวิต ต้นไม้คือลมหายใจ

กิจกรรมสำหรับเด็ก ๆ อายุ 8-14 ปี เพื่อเรียนรู้ท่ามกลางธรรมชาติ โดยประยุกต์การใช้หลักทางวิทยาศาสตร์ ช่วยเรื่องทักษะกระบวนการคิดและการแก้ไขปัญหา เด็ก ๆ จะได้ไปทัศนศึกษา ณ ศูนย์การเรียนรู้สิรินธร จ.ลพบุรี เพื่อศึกษาพันธุ์ไม้นานาชนิด และกิจกรรมส่งเสริม Life Skill ตลอด 3 วัน 3 คืน ที่โสมาภา ป่าสัก รีสอร์ท จ.ลพบุรี

นอกจากนี้ยังมีค่ายช่วงปิดเทอมจากทาง  SMART – i Camp ให้พ่อแม่ได้เลือกตามสนใจให้กับลูกเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตในด้านต่าง ๆ อีกหลายค่าย ไม่ว่าจะเป็น ‘Life Skill Future Camp พลังงานมีคุณค่า รู้รักษาให้ยั่งยืน’ ‘Life Skill Nature Camp ชีวิตมีป่า ป่ามีชีวิต’ ‘Life Skill Culture Camp ตามรอยประวัติศาสตร์ลพบุรี’ และ ‘Life Skill Signature Camp ของดีลพบุรี’

SMART – i Camp  หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เหล่าพ่อแม่เข้าใจว่า Comfort Zone คืออะไรกันมากขึ้น Safe Zone กับ Comfort Zone ต่างกันยังไง มีวิธีออกจาก Comfort Zone อย่างไรให้กับเด็ก ๆ เพื่อให้พวกเขาสามารถก้าวออกจาก Comfort Zone ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ถึง Comfort Zone ของตัวเอง และกล้าที่จะก้าวออกมาจากพื้นที่นั้น อีกทั้งยังได้รู้จักกับกิจกรรมค่ายช่วงปิดเทอมที่จะเป็นพื้นที่ปลอดภัยและช่วยทำให้เด็ก ๆ ได้ก้าวออกมาจาก Comfort Zone ได้ง่ายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

สำหรับพ่อแม่คนไหนอยากรู้จักกับค่ายปลูกฝัง Growth Mindset ของ SMART – i Camp 
สามารถ คลิกที่นี่ เพื่ออ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย