Uncategorized

Introvert คือความเหมือนที่แตกต่างกับ Extrovert

แคมป์ปิดเทอมโดย SMART-i Camp

สิ่งที่มีความหลากหลายและเป็นเรื่องปัจเจกก็คือบุคลิกภาพของเด็กแต่ละคน โดย Introvert คือหนึ่งในบุคลิกภาพที่รวมอยู่ในความหลากหลายนี้และ Extrovert คือบุคลิกภาพที่คละอยู่กับบุคลิกภาพ Introvert ซึ่งแม้ว่าทั้งสองบุคลิกภาพนี้จะมีลักษณะที่แตกต่างกัน แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า Introvert กับ Extrovert นั้นคือความเหมือนที่แตกต่าง เพราะไม่ว่าจะมีบุคลิกภาพแบบไหนก็ต้องการให้เราเข้าใจและยอมรับในความแตกต่างนั่นเอง

นักจิตวิทยา Carl Jung แบ่งเป็นลักษณะนิสัยของเราเป็น 2 ประเภท คือ Introvert กับ Extrovert โดยแต่ละบุคลิกก็จะมีลักษณะที่โดดเด่นขึ้นมาอย่างชัดเจน เช่น Introvert คือบุคลิกภาพที่ค่อนข้างจะเก็บตัว และ Extrovert คือบุคลิกภาพที่ชื่นชอบการเข้าสังคม

ซึ่งสำหรับผู้ปกครองที่อยากให้ลูกเข้าร่วม Summer Camp Thailand ที่ทาง SMART-i Camp จัดขึ้นนั้น ก็สามารถวางใจได้เลยว่าค่ายต่าง ๆ ของเราจะประกอบไปด้วยกิจกรรมที่เหมาะกับเด็กทุกบุคลิกภาพ ไม่ว่าจะเป็น Introvert หรือ Extrovert ก็สามารถเข้าร่วมได้แบบสบายใจและไม่อึดอัดอย่างแน่นอน เพราะเราให้ความสำคัญกับลักษณะบุคลิกที่แตกต่างกัน รวมถึงให้ความสำคัญกับ Mental Well Being ของเด็ก ๆ ด้วย

สังเกตบุคลิก Introvert กับ Extrovert จากลักษณะเด่นของเด็ก

เมื่อ Introvert คือบุคลิกภาพที่มีลักษณะค่อนข้างเก็บตัวแตกต่างจากเด็กบุคลิกภาพ Extrovert ที่จะมีความเปิดเผยมากกว่า เราก็จะต้องสามารถทำความเข้าใจลักษณะของบุคลิกภาพทั้ง 2 แบบนี้เป็นอย่างดี  เพื่อให้เด็ก ๆ ไม่รู้สึกว่าตัวเองถูกแบ่งแยกออกจากสังคมด้วยกิจกรรมสำหรับเด็กของทาง SMART-i Camp ที่จะช่วยดึงศักยภาพของเด็กออกมาได้โดยที่เด็กไม่ต้องกังวลหรือกลัวว่าจะไม่ถูกยอมรับ ซึ่งวิธีการสังเกตบุคลิกของเด็กว่าเป็น Introvert หรือ Extrovert เพื่อทำความเข้าใจเด็กได้มากขึ้นนั้นจะมีอะไรบ้าง? ไปดูกันเลย

วิธีสังเกตบุคลิกภาพ Introvert

เด็กที่มีบุคลิกภาพ Introvert คือเด็กที่ชื่นชอบความเป็นส่วนตัวหรือมีโลกส่วนตัวสูง ชอบใช้เวลาอยู่ตัวเองบ่อย ๆ โดยเด็กบุคลิกภาพนี้จะสามารถจดจ่อกับกิจกรรมตรงหน้าได้นาน และสามารถใช้ความคิดได้ดีเมื่ออยู่ลำพัง ที่สำคัญ Introvert คือจะเป็นเด็กที่พูดน้อย ไม่ค่อยแสดงความคิดเห็น และจะชื่นชอบการเขียนมากกว่าพูด ซึ่งบุคลิกภาพ Introvert นั้น ก็มีข้อดีอยู่หลากหลายข้อ ไม่ว่าจะเป็น

  • สามารถค้นพบตัวเองได้เร็ว
  • รู้จักตัวเองดีว่าต้องการอะไร
  • คิดวิเคราะห์ได้ละเอียด
  • เข้าใจคนอื่นได้ดี

นอกจากข้อดีของบุคลิกภาพ Introvert จะส่งผลดีต่อเด็ก ๆ ในหลากหลายด้านแล้ว Introvert คือบุคลิกภาพที่มีข้อควรระวังที่ผู้ใหญ่ต้องคอยสังเกตและต้องดูแลเด็กด้วยความเข้าใจ ดังนี้

  • มีแนวโน้มที่จะหมกมุ่นอยู่ในโลกส่วนตัวมากเกินไป
  • อาจไม่ค่อยสนใจโลกภายนอกมากเท่าที่ควร
  • เริ่มต้นความสันพันธ์ใหม่ได้ค่อนข้างยาก

วิธีสังเกตบุคลิกภาพ Extrovert

ในส่วนของเด็กที่มีบุคลิกภาพ Extrovert คือเด็กที่เต็มพลังงานบวก ร่าเริง และมีมนุษยสัมพันธ์ เข้ากับเพื่อนได้ง่าย และชอบเป็นจุดสนใจ และสิ่งที่แตกต่างไปจากบุคลิก Introvert คือจะชื่นชอบการพูดมากกว่าเขียนนั่นเอง ซึ่งบุคลิกภาพ Extrovert ที่ชอบการเข้าสังคมนั้น จะมีข้อดีดังนี้

  • มีความเป็นผู้นำสูง
  • มีความกระตือรือร้นเสมอ
  • ทำงานเป็นกลุ่มได้ดี
  • มีทักษะในการพูดหรือการต่อรอง

แม้ว่าเด็กที่มีบุคลิกภาพ Extrovert จะสามารถเข้าสังคมได้ดีจากคุณสมบัติ Extrovert แต่ก็จำเป็นจะต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่ไม่ต่างจากเด็กที่มีบุคลิกภาพ Introvert ซึ่งเราจะต้องหมั่นสังเกตและคอยให้คำแนะนำในพฤติกรรมต่อไปนี้

  • พูดไม่คิด
  • ไม่ค่อยใส่ใจคนอื่น
  • อาจมีความสัมพันธ์ที่ตื้นเขินจากความเป็นมิตรที่มากเกินไป

เรียนรู้จุดเด่นและส่งเสริมเด็กในแบบที่เป็น

หลังจากสังเกตบุคลิก Introvert กับ Extrovert จากลักษณะเด่นของเด็กกันแล้ว เราก็จะต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจความแตกต่างของเด็กทั้ง 2 บุคลิกที่จะมีลักษณะนิสัยหรือการแสดงออกไม่เหมือนกัน โดยผู้ปกครองสามารถเรียนรู้บุคลิกของลูกได้จากการลองทำกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น

กิจกรรมแบบกลุ่ม

ถ้าลูกเป็น Introvert คือจะแสดงออกถึงความกังวลเมื่อต้องกิจกรรมร่วมกับคนกลุ่มใหญ่ แต่ถ้าลูกเป็นบุคลิกภาพ Extrovert เด็กก็จะแสดงออกถึงความสนุกและชื่นชอบการทำกิจกรรมกับคนเยอะ ๆ นั่นเอง

กิจกรรมยามว่าง

ถ้าลูกชอบอยู่กับตัวเองหรือทำกิจกรรมเงียบ ๆ ลำพัง ก็เป็นไปได้ว่าเด็กจะมีบุคลิก Introvert แต่ถ้าเด็กชอบหาเกมใหม่ๆ มาเล่นอยู่เสมอ หรือชอบการเล่นกับเพื่อน ก็เท่ากับว่าลูกของเราเป็น Extrovert

ท่าทางของลูกตอนเห็นเพื่อนเล่นกัน

โดยปกติแล้วเด็ก Extrovert จะชอบการเข้าสังคม ทำให้เมื่อเห็นเพื่อน ๆ เล่นกันก็จะอยากเข้าไปเล่นด้วย แต่เด็กที่เป็น Introvert คือจะรู้สึกสนุกเมื่อเห็นเพื่อนเล่นกัน แม้จะไม่ได้ไปเล่นกับเพื่อน

จะเห็นได้ว่าเราควรจะส่งเสริมให้เด็กที่มีบุคลิกภาพ Extrovert ด้วยการเปิดโอกาสให้เขาได้พูด ทำกิจกรรมร่วมกับกลุ่มเพื่อน และเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพื่อที่จะทำให้เด็กสามารถพัฒนาตัวเองได้เป็นอย่างดีไม่รู้สึกอึดอัดใจหากไม่ได้ทำในสิ่งที่ใจต้องการนั่นเอง 

แต่ในส่วนของเด็กที่มีบุคลิกภาพ Introvert นั้น เราควรจะพาเด็กทำกิจกรรมที่ใช้สมาธิ เช่น การเขียน การวาดภาพ เพื่อให้เด็กรู้สึกสนุกในแบบของตัวเอง และที่สำคัญคือเราไม่ควรจะบังคับเด็กให้ทำกิจกรรมที่เขาไม่อยากทำ หรือบังคับให้แสดงออกแบบที่เขาไม่ต้องการ เพราะถ้าทำแบบนั้นก็อาจจะทำให้เด็กรู้สึกไม่สบายใจหรืออึดอัดได้นั่นเอง

ซึ่งแคมป์ปิดเทอมโดย SMART-i Camp ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อรองรับเด็ก Extrovert กับ Introvert คือตัวเลือกดี ๆ ที่พร้อมจะทำให้เด็กได้รับการส่งเสริมศักยภาพตามบุคลิกของตนเองอย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยทำให้เด็ก ๆ มี Mental Well Being ได้ในที่สุด

แชร์ทริกดูแลลูกตามบุคลิกภาพเพื่อส่งเสริมพัฒนาการ

สำหรับผู้ปกครองที่ลองสังเกตและเรียนรู้พฤติกรรมของลูก ๆ ตามที่เราได้แนะนำไปแล้ว ก็สามารถทำความเข้าใจลูกมากขึ้นด้วยทริกดี ๆ ที่ช่วยให้เราปรับสมดุลของการดูแลลูกได้เป็นอย่างดี เพื่อส่งเสริมศักยภาพและพัฒนาการ รวมถึงสร้าง Growth Mindset ให้กับเด็กได้อย่างเหมาะสม 

  • ทริกดูแลลูก Extrovert
    • ส่งเสริมให้ลูกได้พูดหรือแสดงความคิดเห็น
    • สอนให้ลูกรู้จักการรอ
    • หาเวลาอยู่กับลูกเสมอ
    • พาลูกไปทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อน ๆ
  • ทริกดูแลลูก Introvert
    • บอกให้คนรอบข้างเข้าใจว่าบุคลิก Introvert คือลักษณะแบบไหน
    • ให้เวลาลูกคิดก่อนพูดหรือตอบคำถาม
    • ไม่เซ้าซี้ให้ลูกพูดหรือเล่าเรื่องต่าง ๆ
    • ทำความเข้าใจกับการเข้าสังคมของลูก

สร้าง Mental Well Being ให้ทุกบุคลิกภาพด้วยค่าย SMART-i Camp

ผู้ปกครองที่อยากส่งเสริมพัฒนาการและศักยภาพของลูกให้ดียิ่งขึ้นและไม่ขัดกับบุคลิกภาพของเด็ก สามารถเลือกให้การเข้าค่ายปิดเทอมจาก SMART-i Camp เป็นตัวช่วยในการพัฒนาลูก ๆ และสร้าง Mental Well Being ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งค่ายจากเราก็มีให้เลือกถึง 3 ประเภท ดังนี้

  • ค่าย Positive Psychology
    เสริมสร้าง EQ และเน้นการสร้างสุขภาวะด้านอารมณ์และจิตใจให้กับเด็ก ๆ ด้วยจิตยาเชิงบวก เพื่อปูทางสู่อนาคตที่สามารถประสบความสำเร็จได้อย่างมีความสุข ไม่กลัวความท้าทายและอุปสรรค
  • ค่าย Edutainment
    “เรียนก็สนุก เล่นก็ได้ความรู้” เป็นแนวคิดของค่าย Edutainment ที่พร้อมทำให้เด็ก ๆ เรียนสิ่งใหม่ด้วยความสนุกสนานและเปิดโอกาสให้เรียนรู้อย่างไร้ขีดจำกัด
  • ค่าย Life Skill Camp
    การเรียนรู้ทักษะชีวิตจากค่าย Life Skill Camp จะช่วยปลูกฝังความสามารถและทักษะต่าง ๆ ให้กับลูกของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถนำทักษะเหล่านี้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้

แนะนำการเลือกค่ายที่เหมาะสมกับลูกของคุณ

เมื่อค่ายปิดเทอมของ SMART-i Camp มีให้เลือกมากถึง 3 ประเภท ก็อาจจะทำให้ผู้ปกครองลังเลหรือไม่แน่ใจว่าควรเลือกค่ายอะไรถึงจะเหมาะสมกับลูก ๆ เราจึงจะพาไปเจาะรายละเอียดของค่ายต่าง ๆ กัน เพื่อที่ผู้ปกครองจะสามารถพิจารณาและเลือกค่ายได้อย่างเหมาะสม

 

ค่าย

หลักการของค่าย

Positive Psychology

Growth Mindset

ออกจาก Comfort Zone

Self-Compassion

รู้จักตัวเองมากขึ้น

7 Habits

สร้างภาวะผู้นำ

Grit

สร้างความอดทน

Critical Thinking

ฝึกใช้วิจารณญาณ

Edutainment

Math Camp

เรียนทักษะการคิดคำนวณแบบสนุกสนาน

Coding Camp

เรียน Coding ภาษาแห่งอนาคต

WakeBoard Camp

ทำกิจกรรม Extreme และก้าวข้ามผ่านความกลัว

Life Skill Camp

Nature Camp

เรียนรู้อย่างสนุกสนานจากกิจกรรมอนุรักษ์ธรรมชาติ

Culture Camp

เรียนรู้จากประวัติศาสตร์

Future Camp

เรียนรู้คุณค่าของพลังงาน

Signature Camp

เรียนรู้วิถีชุมชน

My Dino journey Camp

เรียนรู้จากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ สู่ภาวะ “พร้อมเปลี่ยนแปลง” 

Travel Through Time Camp

เรียนรู้จากประวัติศาสตร์

เพียงแค่เราทำความเข้าใจว่า Introvert คือบุคลิกภาพที่ชื่นชอบการอยู่แบบสงบ และ Extrovert คือบุคลิกภาพที่ชื่นชอบการเข้าสังคม เราก็จะดูแลเด็ก ๆ Introvert กับ Extrovert ได้เป็นอย่างดี เพราะไม่ว่าจะเป็นบุคลิกภาพ Introvert หรือ Extrovert ก็ต้องการความเข้าใจและความเอาใจใส่ที่เหมาะสมกับบุคลิกภาพของตัวเด็ก เพื่อให้พัฒนาการและศักยภาพของลูก ๆ ถูกดึงออกมาใช้อย่างถูกวิธี

ผู้ปกครองที่ต้องการให้ลูกพัฒนาศักยภาพพร้อมกับมี Mental Well Being

สามารถเลือกเข้าค่ายปิดเทอมโดย SMART-i Camp เพื่อส่งเสริมเด็ก ๆ ได้เลย

อ่านรายละเอียดของค่ายเพิ่มเติม คลิกที่นี่

Course

Coming Soon

Workshop

Coming Soon

2

Course

Coming Soon

3

Workshop

Coming Soon

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ ครูแก๊ป ศิริภพ โสมาภา